World Medical Hospital (WMC), Thailand

Language


เชื้อ H.Pylori ต้นเหตุแผลในกระเพาะอาหาร สู่มะเร็งในกระเพาะอาหาร

 

เชื้อ H.Pylori ต้นเหตุแผลในกระเพาะอาหาร สู่มะเร็งในกระเพาะอาหาร

 

สาเหตุการเกิด “โรคกระเพาะอาหาร” ที่หลายคนทราบดี คือการทานอาหารไม่ตรงเวลา ปล่อยให้ท้องว่างจนกระเพาะอาหารเสียสมดุลของกรดภายในกระเพาะอาหารนำไปสู่การทำลายเยื่อบุกระเพาะอาหาร แต่อีกสาเหตุหลักที่เป็นตัวการให้เกิดโรคกระเพาะอาหาร ทั้งยังสามารถแพร่ระบาดจากคนสู่คนได้ นั่นก็คือ เชื้อเอชไพโลไร หรือ  H.Pylori ( Helicobacter Pylori) ”

 

รู้จักแบคทีเรียตัวร้าย H.Pylori

     เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) หรือ เอชไพโลไร (H.Pylori) คือเชื้อแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่สามารถแพร่เชื้อจากคนสู่คนได้ จากการใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารร่วมกัน การบริโภคอาหารและน้ำที่มีการปนเปื้อน และการปรุงอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะอาศัยอยู่ภายในระบบทางเดินอาหาร เป็นต้นเหตุให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร ซึ่งสามารถพัฒนาเป็นโรคแผลในกระเพาะอาหาร หรือแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น รวมถึงมะเร็งกระเพาะอาหารได้อีกด้วย

 

 

 

 

อาการของผู้ติดเชื้อ H.Pylori

โดยปกติแล้ว ผู้ที่ติดเชื้อ H.Pylori มักจะไม่แสดงอาการ แต่ในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการที่สังเกตได้ ดังนี้

  • ปวดหรือแสบร้อนที่ท้องบริเวณเหนือสะดือ
  • ปวดรุนแรงเมื่อท้องว่างหรือหลังจากรับประทานอาหาร
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • จุกเสียดลิ้นปี่
  • ท้องอืด เรอบ่อย
  • เบื่ออาหาร
  • น้ำหนักลดผิดปกติโดยไม่ทราบสาเหตุ

 

แต่ในรายที่มีอาการอักเสบรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เร่งด่วนจะมีอาการ ดังนี้

  • ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำคล้ายยางมะตอย หรือมีเลือด และกลิ่นรุนแรง
  • ปวดท้องรุนแรง เรื้อรัง
  • อาเจียนเป็นเลือดหรือมีสีน้ำตาลคล้ำ

 

H.Pylori คือแบคทีเรียทีมีความสามารถในการสร้างด่างเพื่อป้องกันตนเองจากกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้ H.Pylori สามารถแฝงอยู่ในร่างกายในนานเป็น 10 ปี โดยแทบไม่แสดงอาการ เสี่ยงเกิดมะเร็งกระเพาะอาหารมากถึง 2-6 เท่าเมื่อเทียบกับคนปกติที่ไม่มีการติดเชื้อ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลกจัดให้เชื้อ เฮลิโคแบคเตอร์ ไพโลไร (Helicobacter Pylori) เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของมะเร็งกระเพาะอาหารดังนั้นการกำจัดเชื้อ Helicobacter Pylori จึงเป็นการลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร

 

การตรวจหาเชื้อ H.Pylori จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ทราบต้นตอก่อนเกิดอาการรุนแรง ซึ่งปัจจุบันสามารถทำการตรวจได้หลายวิธี  โดยการตรวจวินิจฉัยเชื้อทางลมหายใจที่เรียกว่า “Urea Breath Test หรือ การเป่าลมหายใจและวัดหาระดับยูเรีย” เป็นวิธีที่ง่าย รวดเร็ว ความแม่นยำสูง ( ความไว 88-95% ) และไม่ก่อให้เกิดการเจ็บตัว ช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดโอกาสการเกิดแผลในกระเพาะอาหารซ้ำ และการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร

 

บทความโดย นพ.วชิรพงศ์ เอกไพบูลย์

แพทย์เฉพาะทางอายุรแพทย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ

ศูนย์โรคทางเดินอาหารและเอ็นโดสโคป ชั้น 3

โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล ถนนเเจ้งวัฒนะ ( WMC )

โทร. 02-836-9999 ต่อ 3821-2