IUI คืออะไร? แล้วทำไมต้อง IUI?
เทคโนโลยีทางการแพทย์สำหรับคู่รักที่มีปัญหามีบุตรยากในปัจจุบันนั้นมีมากมายหลายวิธี แต่หนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมและใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติมากที่สุดนั่นคือ การทำ “IUI” หรือที่เราเรียกว่า “การผสมเทียม”
IUI หรือ Intrauterine insemination คือ การฉีดอสุจิเข้าโพรงมดลูก วิธีนี้เป็นวิธีที่มีความใกล้เคียงกับวิธีธรรมชาติมากที่สุด เพราะ IUI คือนำอสุจิที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ฉีดเข้าไปในโพรงมดลูกในวันที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ เรียกได้ว่า เป็นการสร้างโอกาสให้อสุจิได้ผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น เพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์
IUI เหมาะกับใคร?
- คู่สมรสที่ลองปล่อยวิธีธรรมชาติอย่างน้อย 6 เดือน - 1 ปี ยังไม่ตั้งครรภ์
- ฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับเชื้ออสุจิ มีจำนวนอสุจิน้อย อสุจิเคลื่อนที่ได้ไม่ดีในระดับที่รุนแรง
- ฝ่ายหญิงมีท่อนำไข่ปกติอย่างน้อย 1 ข้าง
- คู่สมรสที่ต้องการมีบุตรโดยไม่รอเวลาและไม่มีปัญหามีบุตรยาก
การเตรียมตัวสำหรับการทำ IUI
1. ฝ่ายหญิงควรดูแลสุขภาพโดยการพักผ่อนเพียงพอ ร่วมกับทานอาหารครบ 5 หมู่ และทานยาบำรุงเลือด (Folic Acid) อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ
2. ฝ่ายชายควรงดและหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 1-2 เดือนก่อนการทำ IUI โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีปัญหาอสุจิ
3. ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงควรทำภาวะจิตใจให้แจ่มใส ไม่เครียดและลดความกังวล โดยรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอน โดกาสความสำเร็จ และข้อจำกัดของการรักษาเพื่อให้ทราบถึงประเด็นความเสี่ยง และลดความคาดหวังขณะทำการรักษา
ขั้นตอนหลักสำคัญของการทำ IUI
ขั้นตอนที่ 1 กระตุ้นไข่ด้วยยาปริมาณน้อย เพื่อเพิ่มโอกาสสร้างจำนวนไข่มากกว่า 1 ฟอง และต้องไม่มากเกินไป เพื่อลดโอกาสเสี่ยงครรภ์แฝด
ขั้นตอนที่ 2 ตรวจวัดขนาดของถุงไข่ด้วยการอัลตร้าซาวด์ เพื่อความแม่นยำว่าในรอบที่ทำจะมีโอกาสเกิดไข่โตเต็มวัยกี่ฟอง
ขั้นตอนที่ 3 ฉีดยากำหนดให้ไข่ตก
ขั้นตอนที่ 4 เตรียมเชื้ออสุจิวันที่หมอนัดฉีดเชื้อ โดยเป็นการปั่นเตรียมในห้องปฏิบัติการเฉพาะ เพื่อคัดเชื้อที่มีความแข็งแรงดีพอในการเตรียมขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอนที่ 5 ฉีดเชื้อที่เตรียมเข้าไปในโพรงมดลูก โดยใช้สายขนาดเล็กที่มีความยาวสอดผ่านเข้าในโพรงมดลูก โดยเทคนิคของแพทย์เฉพาะทางเพื่อลดการสัมผัสกรด - ด่าง หรือเชื้อต่าง ๆ บริเวณปากมดลูกที่จะทำร้ายอสุจิ (กรณีผู้รับการฉีดมีผนังมดลูกบาง แพทย์จะพิจารณาให้ยาช่วยร่วมด้วย)
ขั้นตอนที่ 6 หลังการทำ IUI ประมาณ 2 สัปดาห์จะสามารถรู้ผลลัพธ์ และแพทย์จะทำการนัดตรวจเพื่อยืนยันผลอีกครั้ง
ซึ่งโดยปกติแล้ว อัตราการประสบความสำเร็จของผู้ที่ทำ IUI จะมากกว่าการปฏิสนธิแบบธรรมชาติประมาณ 2 เท่า แต่แม้ว่าอัตราการประสบความสำเร็จจะสูงเพียงใด ทั้งหมดแล้วก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพ อายุของคู่สมรส รวมถึงการเอาใจใส่ตนเองของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น ควรพบแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาร่างกาย ให้ของขวัญชิ้นสำคัญที่สุดอย่างเจ้าตัวน้อยได้เติบโตอย่างสมบูรณ์
บทความโดย : นพ.เสฐียรพงศ์ จารุสินธนากร
แพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวช เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : World ART Center ชั้น 4 โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอล (WMC) โทร. 02-836-9999 ต่อ 4706